ช่วงสาย ๆ ของวันอาทิตย์วันหนึ่งในเดือน มี.ค. ขณะที่ผมกำลังวางแผนในเรื่องปากท้อง ของผมในวันนี้ (ก็เรื่องการกินนั่นแหละ อิอิ) ทันใดนั้น ไลน์ของผมก็ดังขึ้น ผมได้แต่คิดว่า เพื่อนผมคนไหนกันนะที่ไลน์มาหาผมในช่วงสายของวันหยุดแบบนี้ สักพักผมก็คิดขึ้นได้ว่า เพื่อนผมคนไหนที่ไลน์มาหาผม ผมได้หยิบโทรศัพท์ผมขึ้นมาอ่านไลน์ ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่า คงไม่ใช่เพื่อนผมคนนั้นแน่ ๆ แต่แล้วคำภาวนาของผมก็ไม่สัมฤทธิ์ผล ตัวอักษรในไลน์ที่อยู่เบื้องหน้าของผม มันคือเพื่อนผมคนนั้นจริง ๆ ผมได้รู้ชะตากรรมของผมแล้วว่า ผมจะเจอกับอะไรในตอนเย็นของวันนี้ ข้อความในไลน์ที่เพื่อนผมส่งมานั้น มีใจความว่า
"เย็นนี้ว่างไหม ไปกินชาบูกัน" (แป่ว!! เขียนซะตื่นเต้นเลย หุหุ)
ท่านผู้อ่านคงคิดว่า ผมจะกลัวทำไม แค่เพื่อนชวนกินชาบู แต่ท่านผู้อ่านคงไม่ทราบว่า เพื่อนผมคนนี้ แกชอบกินชาบูเป็นชีวิตจิตใจ แล้วแกชวนผมกับน้องชายผมกินชาบูค่อนข้างบ่อย เฉลี่ย เดือนล่ะ 1-3 ครั้ง แล้วกินกันทุกเดือน เพื่อนผมคนนี้ชอบกินอะไรที่มันถูก ๆ และได้เยอะ ๆ เรียกว่า กินมื้อหนึ่งขอให้คุ้มเลย ก็ว่าได้ ซึ่งในสมัยก่อน ผมได้พาเพื่อนผมไปกินสเต็กสามย่าน ผมเห็นว่าดีเลยบอกต่อ แต่ผมไม่คิดว่า มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการกินอะไรบ่อย ๆ เพื่อนผมถ้ารู้ว่า ถูก!! เยอะ!! แกก็จะกินแต่แบบนั้นบ่อย ๆ ตอนที่เพื่อนผมแกได้ลองลิ้มรสสเต็กสามย่าน แกติดใจอย่างหนัก ชวนผมไปกินทุกสัปดาห์ จนผมเอียนสเต็กไปสักพักใหญ่ ๆ พอมาคราวนี้สเต็กแกเริ่มเบื่อล่ะ มาติดใจชาบูแทน เพราะฉนั้น ตอนที่ผมได้เห็นไลน์ที่เพื่อนผมชวนกินชาบู ผมก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะตอบตกลง และนี่ก็เป็นที่มาของรีวิวนี้ครับ
ชาบูที่ผมและเพื่อนผมชอบไปกินกัน คือ ชาบูอินดี้ ครับ เนื่องจากว่า ราคาไม่แพงเกินควร และ นั่งได้ไม่จำกัดเวลา ซึ่งข้อหลังเข้าทางเพื่อนผมมากสุด (ถ้าเป็นชาบูแบบจำกัดเวลา แกจะไม่กินครับ เพราะแกบอกว่า เหมือนมีเวลามาคอยจำกัดเรา ทำให้ต้องรีบกิน แทนที่จะนั่งกินกันไปเรื่อย ๆ)
ชาบูอินดี้ สาขา ปิ่นเกล้า จะอยู่ในปั๊มน้ำมันที่ไม่ใช้แล้ว ปั๊มน้ำมันจะอยู่ตรงข้ามกับ เทสโก้ โลตัส ปิ่นเกล้า ครับ ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่ามันมี ชาบู อยู่ในปั๊มน้ำมันด้วย ซึ่งถ้าไม่ใช่คนในท้องที่ ก็จะไม่รู้ครับ ผมมารู้ก็ตอนช่วงเทศกาลกินเจ เนื่องจากว่า ข้างร้าน ชาบูอินดี้ จะมีร้านอาหารเจอยู่ ผมจึงได้รู้จักกับ ชาบูอินดี้ สาขา ปิ่นเกล้า ครับ (ผมไม่มั่นใจว่า เรียกว่า สาขาปิ่นเกล้ารึเปล่านะครับ ผมเรียกตามย่านที่ร้านเปิด ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยครับ)
จริง ๆ ที่ สาขาปิ่นเกล้า ผมเคยมาทานแล้วหลายครั้ง (นับจากนี้ต่อไป คงจะทุกเดือน 555) เวลาเปิด - ปิด ของสาขานี้ จะเปิดตั้งแต่ 16.00 น. เป็นต้นไป ส่วนเวลาปิด ผมไม่มั่นใจว่า 4 ทุ่ม หรือ 5 ทุ่ม
ชาบู อินดี้ ที่ปิ่นเกล้า จะมีอยู่ 2 โซนด้วยกัน คือ โซนพัดลม กับ โซนแอร์ ซึ่งลูกค้าส่วนมากก็จะเลือกนั่งโซนแอร์มากกว่า ซึ่งผมก็เป็นหนึ่งในนั้น อิอิ นอกจากโซนแอร์เต็ม ลูกค้าก็จะนั่งในส่วนของโซนพัดลม แต่ก็มีกลุ่มลูกค้าบางท่าน ที่อาจจะไม่ชอบนั่งในโซนแอร์ อาจจะด้วยบรรยากาศที่ถ่ายเทไม่ค่อยสะดวกเหมือนกับโซนพัดลม (ซึ่งเวลาผมไปกินสเต็กสามย่าน ผมก็ไม่เลือกนั่งในห้องแอร์ เช่นกัน เพราะลูกค้าบางท่านสั่ง มิคกิวกะทะร้อนมา ควันจะโขมงมาก และถ้านั่งในห้องแอร์ อากาศก็จะไม่ค่อยถ่ายเถควันที่โขมงมาจากกะทะร้อน)
พนักงานของที่ชาบู อินดี้ สาขา ปิ่นเกล้า ค่อนข้างบริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึงครับ อย่างที่ผมไปมาล่าสุด มีลูกค้า 6 ท่าน นั่งอยู่ในโซนร้อน แต่พนักงานก็ไม่ปล่อยให้ลูกค้าร้อน นำเอาพัดลม 2 ตัว มาจ่อให้กับลูกค้า เพราะกลัวลูกค้าร้อน ซึ่งผมเห็นแล้วก็ชื่นชมพนักงานของที่นี่อยู่ในใจครับ กับการดูแล เอาใจใส่ต่อลูกค้า
น้ำซุปของสาขา ปิ่นเกล้า แรกเริ่มเดิมที จะมีแต่น้ำใส แต่ปัจจุบันมีน้ำข้น มาให้เป็นอีก 1 ตัวเลือก สำหรับคนที่อยากลองของใหม่ แต่ผมยังไม่เคยลองน้ำข้นครับ เลยไม่สามารถบอกได้ว่า ดีหรือไม่ดี เพียงใด
ซุปน้ำในของทางร้าน กำลังร้อนได้ที่เลยครับ
มากันครบเลยครับทั้งผัก ไข่ และเนื้อสัตว์
น้ำดื่มที่นี่่ ก็จะมีทั้งน้ำเปล่า และ น้ำรีฟีล ถ้าเป็นน้ำเปล่าก็จะไม่ได้เป็นแบบฟรีนะครับ จะมีการคิดราคาตามขวดที่เราได้เปิดใช้ น้ำรีฟีล แรกเริ่ม มีแต่น้ำชามะนาว แต่ปัจจุบันได้มีการเพิ่มน้ำ Pepsi เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของน้ำรีฟีลด้วยครับ
น้ำ Pepsi จะไม่ค่อยซ่าสักเท่าไหร่นะครับ ส่วนน้ำชามะนาว หวานหน่อยครับ แต่ก็อร่อยดีครับ
น้ำจิ้มสุกี้ที่ผมชอบครับ
น้ำจิ้มของที่นี่่ จะมีแบบซีฟู้ดส์ กับ แบบสุกี้ ผมชอบแบบสุกี้ครับ ผมว่ามันอร่อยดี ส่วนซีฟู้ดส์ ผมไม่เคยลองนะครับ เพราะผมเป็นคนไม่ทานเผ็ดครับ น้ำจิ้มซีฟู้ดส์ผมเลยไม่ได้ลองครับ
หมึกสดรอลงหม้อครับ
ในส่วนของรายการอาหาร สาขา ปิ่นเกล้า ผมคิดว่าค่อนข้างน้อยครับ ถ้าเทียบกับ สาขา มหาชัย ที่ผมเคยไปทานมา ของหวานของทางร้าน ก็คือ ไอติม ครับ ถ้าเป็นสาขา ปิ่นเกล้า ไอติม จะมีบริการที่โซนพัดลม ครับ เราต้องบริการตัวเองนะครับ แต่ทางสาขา มหาชัย ถ้าเราต้องการไอติม เราสามารถที่สั่งกับพนักงานได้เลยครับ เค้าจะตักมาให้เรา เราเพียงแค่ระบุรสชาติที่ทางร้านมีว่าต้องการรสชาติไหน กี่ลูก สักพักพนักงานก็จะจัดมาให้ครับ
ทางด้านการบริการของพนักงาน สาขา ปิ่นเกล้า และสาขา มหาชัย ค่อนข้างที่จะบริการได้ทั่วถึงครับ ทางปิ่นเกล้าร้านจะเล็กกว่าของทางมหาชัยครับ พนักงานทั้ง 2 สาขา ที่ผมเคยไปมา จะสอดส่องดูแลให้ตลอดครับ น้ำรีฟีลแทบไม่เคยขาดเลยครับ เห็นว่าจะหมดปุ๊บ พนักงานจะรีบเติมให้ทันทีครับ แทบไม่ต้องร้องขอเลย จะมีก็แต่น้ำจิ้มที่จะหมดต้องร้องขอครับ เพราะว่าพนักงานอาจจะไม่ได้สังเกตุครับ อันนี้สำหรับผมแล้ว ไม่ว่ากันครับ
โดยรวมแล้ว ชาบู อินดี้ เป็นชาบูที่ผมชื่นชอบที่สุดแล้วครับ ณ ตอนนี้ ด้วยราคาที่ไม่แพงเกินไป กับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ (ราคาชาบูอินดี้ 249 บาท น้ำรีฟีล 35 รวมแล้ว 284 บาท นี่เป็นราคาที่เน็ตแล้วนะครับ ไม่มีบวกVat หรือ Service Charge เพิ่ม แถมไม่จำกัดเวลาอีก ผมว่าราคานี้ก็โอเคแล้วครับ) ผมได้สอบถามทางพนักงานว่า จะมีระบบ Member Card ไหม ไหน ๆ ผมก็มาทุกเดือน ผมก็สมัครซ่ะเลย อิอิ พนักงานตอบว่า กำลังดำเนินการจัดทำระบบ Member Card อยู่ ซึ่งถ้ามี ผมคิดว่า เพื่อนผมคงชวนผมไปบ่อยกว่าเดิมแน่นอนครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น