ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ได้มีเพื่อนของเพื่อนผมคนหนึ่งเดินทางไกลมาจาก จังหวัดนครพนม เพื่อที่จะมาลองเล่นสงกรานต์และบรรยากาศสงกรานต์ของ กรุงเทพฯ ว่าเป็นอย่างไร ในส่วนของทางเพื่อนผม ก็ได้ชวนผมไปเล่นด้วย ซึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้เล่นมานานหลายปีแล้วเช่นกัน ตั้งแต่มีประกาศว่า รถกะบะห้ามนำถังน้ำขึ้นรถ ตามความคิดผม ๆ ว่า การนำถังน้ำขึ้นรถกะบะแล้วมีคนนั่งอยู่หลังรถกะบะ ถึงแม้จะดูอันตราย แต่ก็เป็นความสนุกที่สุด ที่ผมเคยเล่นสงกรานต์มา แต่ในเมื่อการเล่นสงกรานต์บนกะบะหลัง ถือมเป็นการผิดกฏหมาย ก็ต้องยอมรับกันไปครับ
ในเมื่อไม่ได้เล่นมาหลายปีแล้ว พอเพื่อนผมชวน ผมก็ไม่ปฏิเสธครับ ตอบรับด้วยความยินดี ยิ่งสถานที่ ๆ เพื่อนผมเค้าจะไปด้วยแล้ว ผมยิ่งยินดีที่จะไปเป็นอย่างยิ่งครับ
สถานที่ ๆ จะไปเล่นน้ำสงกรานต์กันก็คือ สยามสแควร์ ครับ
สงกรานต์ที่สยามสแควร์ปีนี้จัดภายใต้ชื่อที่ว่า "สงกรานต์เมษาผ้าขาวม้า ยกสยาม" ซึ่งจัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม และ ททท. จัดกันใจกลางสยามสแควร์เลยครับ ทางเข้าทุกทางจะมีการ์ดตรวจคนเข้าค่อนข้างเข้มงวดครับ คือ จะตรวจดูว่ามีเอาอาวุธมาด้วยไหม หรือถ้าเป็นผู้หญิง ถ้าแต่งตัวโป๊เกินไป หรือใส่กางเกงขาสั้นเกินไป ก็จะไม่ให้เข้านะครับ ต้องไปซื้อเสื้อที่ทางงานมีจัดขายให้ก่อน ถึงจะเข้าได้ครับ ถ้าคนใส่กางเกงสั้นเกินไป ก็จะมีผ้าขาวม้าขายให้ครับ หรือคนที่ใส่สายเดี่ยว ก็จะมีคล้าย ๆ เสื้อม่อฮ่อมขายเช่นเดียวกันครับ ตรงนี้ต้องขอชมเชยครับ การตรวจเข้มงวดดีครับ จะได้เล่นสงกรานต์ที่สนุก ไม่ใช่สงครามครับ
ภายในงาน ก็จะมีการแสดงของศิลปิน ดารา นักร้อง ที่มาผลัดเปลี่ยนกันให้ความสนุกกับคนที่มาเล่นสงกรานต์ และ ไม่ได้มาเล่นสงกรานต์ครับ ซึ่งวันที่ผมไป (14 เมษา) เป็นคุณอี๊ด โปงลางสะออนมาครับ เห็นโฆษกประกาศว่า ช่วง 18.00 น. จะมีหน้ากากจิงโจ้ (คุณเป๊ก ผลิตโชค) มาให้ความบันเทิงกับคนที่มาเล่น และแฟนคลับหน้ากากจิงโจ้ด้วยครับ แต่ผมไม่ได้อยู่ดูนะครับ คนดูก็นั่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อยมากครับ โดยแถวหน้า ๆ ประมาณ 4-5 แถว จะนั่งลงกับพื่น ส่วนด้านหลังก็จะยืนดูกัน แต่ก็ไม่มีการเบียดเสียด หรือ ดันกัน
นอกจากจะมีศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์แล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่คนฮือ ฮา เกรียวกราวกันก็คือ อุโมงค์น้ำ แต่ไม่ได้เปิดตลอดนะครับ จะเปิดเป็นรอบ ๆ ไปครับ อาจจะเปิดรอบหนึ่ง แล้วพักไปอีก 15-20 นาที ก็จะเปิดอีกครั้งครับ ผมโชคดีที่ตอนเดินเข้าไป อุโมงค์น้ำเปิดพอดี เลยได้เดินผ่าน ผ่านแบบไม่ต้องโดนใครใช้ปืนฉีดน้ำยิงเลยครับ แค่เดินเข้าไปในอุโมงค์น้ำ ก็เปียกหมดทั้งตัวแล้วครับ ทำให้อากาศร้อนในกลางเดือนเมษา เย็นขึ้นทันตาเห็นเลยครับ (อุโมงค์น้ำ ผมชอบมาก ๆ เสียดายเดินได้แค่รอบเดียวครับ เพราะตอนที่เปิดอุโมงค์น้ำ คนจะมาออกันเยอะเป็นพิเศษครับ)
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมในงาน ก็คือ การนำประเพณีอันดีงามของแต่ละท้องที่ ยกมาไว้ที่กลางสยามสแควร์ ทำให้สยามสแควร์ที่ผมรู้จัก เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลยครับ อย่างเช่น ประเพณีแห่พระ ที่ผมเคยเห็นแต่ในโทรทัศน์ ก็ได้มีการจัดเข้ามาอยู่ที่สยามสแควร์ด้วยครับ โดยจะมีพระพุทธรูปอยู่บนหลังรถกะบะ คนขับก็จะค่อย ๆ ขับผ่านอุโมงค์น้ำ ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ทำการสรงน้ำพระกัน (แต่เนื่องจากไม่มีการอนุญาติให้ใช้ขันน้ำในการเล่น ทำให้การสรงน้ำพระในตอนที่มีการแห่พระ จึงต้องใช้ปืนฉีดน้ำ ฉีดไปที่บนรถแทนครับ)
นอกจากการแห่พระแล้ว ยังมีซุ้มสรงน้ำพระตามวันเกิด และสรงน้ำพระพุทธรูปด้วยครับ ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะไปสรงน้ำพระประจำวันเกิดครับ เพื่อขอพรให้มีแต่สิ่งดี ๆ ให้เข้ามาในชีวิต มีซุ้มของทางภาคเหนือด้วยนะครับ แต่ผมไม่ทราบว่าเป็นประเพณีอะไร ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยครับ
การเล่นน้ำของที่นี่ ก็จะเหมือนที่ สีลม และ ตรอกข้าวสาร คือ ไม่มีการเล่นแป้งครับ คนเล่นน้ำส่วนมากก็จะถือปืนฉีดน้ำไปกันครับ มีจุดบริการเติมน้ำฟรีด้วยครับ ตามถังที่ทางสถานที่จัดไว้ให้ ซึ่งเราสามารถเดินไปขอเติมน้ำได้เลยครับ ไม่เสียสักบาท คนไปเล่นก็เยอะครับ แต่ไม่แออัด เดินค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ ผมเดินไป กลับ ประมาณ 2 รอบ ก็ต้องบอกลาสถานที่แห่งนี้แล้วครับ เพื่อจะพาเพื่อนผู้มาจากแดนไกล ไปซึบซับบรรยากาศที่สีลม กันต่อครับ
จากสยามสแควร์มาสีลม ไม่ไกลกันเท่าไหร่ครับ แต่คนนี่ต่างกันลิบลับเลยครับ 55 ทีแรกผมมาถึงแยก ศาลาแดง ผมได้คิดในใจว่า ปีนี้สีลมคนน้อยผิดปกติ หรืออาจจะเป็นได้ว่า มันยังไม่มืดมาก (ผมไปถึงที่สีลม ประมาณบ่าย 4 โมงกว่า ๆ ได้ครับ) แต่ถ้าผมเดินเข้าไปถึง BTS ศาลาแดง ผมรู้สึกตัวเลยว่า ผมได้คิดผิดไป สงกรานต์ที่สีลม คนยังคงคอนเซ็ปต์เดิมว่า เยอะ บริเวณทางเข้าถนนสีลม ที่ผมเห็นว่าคนน้อย มันเป็นสิ่งที่หลอกความคิดผมได้ซ่ะอย่างนั้น
ผมได้เดินมาถึง BTS ศาลาแดง แล้วผมก็เดินขึ้น BTS เพื่อย้อนกลับ เนื่องจากว่า คนเยอะมาก จนไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว ระหว่างที่เดินลงบันได BTS ก็ได้ชี้ให้เพื่อนผู้มาจากแดนไกลของผมได้เห็นถึงคลื่นมหาชนที่ออกันอยู่ตรงใจกลางถนนสีลม ซึ่งผมเชื่อว่า ภาพแบบนี้คงจะแตกต่างจากที่ นครพนม แน่เลย
การเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลม ก็ไม่มีการเล่นแป้งเช่นเดียวกันครับ จะเล่นด้วยปืนฉีดน้ำกันเป็นส่วนใหญ่ น้ำที่นี่จะเสียตังค์ในการเติมน้ำนะครับ และก็จะเป็นน้ำเย็น ซึ่งผมก็ งง ว่า ทำไมจะต้องเสียเงินเติมน้ำด้วยนะ และผมก็มาเข้าใจในภายหลังว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ จะสั่งเป็นน้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆ มา และก็จะรอจนน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ ก็จะมาเติมให้กับคนที่อยากจะเติมน้ำในปืนฉีดน้ำเพื่อเล่นสงกรานต์ นี่จึงเป็นที่มาว่า ทำไมที่ถนนสีลม น้ำที่ถูกฉีดออกมาจากปลายกระบอกปืนฉีดน้ำ ถึงได้เป็นน้ำเย็น
ภาพบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลม
ภาพบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนสีลม
ผมหวังว่า เพื่อนของเพื่อนผม จะไ้ด้รับความสนุก และบรรยากาศ และความทรงจำที่ดี การเล่นน้ำสงกรานต์ในกรุงเทพฯ ซึ่งน่าจะต่างจากที่ นครพนม ตอนกลับผมได้แวะทานสเต็กด้วยครับ เอาไว้ผมจะมารีวิวสเต็กในครั้งหน้านะครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น